Hello, you have come here looking for the meaning of the word
สมเด็จ. In DICTIOUS you will not only get to know all the dictionary meanings for the word
สมเด็จ, but we will also tell you about its etymology, its characteristics and you will know how to say
สมเด็จ in singular and plural. Everything you need to know about the word
สมเด็จ you have here. The definition of the word
สมเด็จ will help you to be more precise and correct when speaking or writing your texts. Knowing the definition of
สมเด็จ, as well as those of other words, enriches your vocabulary and provides you with more and better linguistic resources.
Thai
Etymology
Derived from Old Khmer saṃtac or saṃtāc (“an honorific given to gods, priests, and monarchs”); extended from stec or stāc, from which Thai เสด็จ (sà-dèt) is derived; ultimately from the root tāc (“high; noble; exalted”).[1] Cognate with Modern Khmer សម្ដេច (sɑmdac).
Pronunciation
Noun
สมเด็จ • (sǒm-dèt)
- an honorific for or term of address to gods, monarchs, high-ranking royal persons, high-ranking priests, and high-ranking noble persons, often prefixed to their names or titles.[1][2]
Usage notes
- Sometimes found used in combination with other honorifics, such as with พระ (prá) as สมเด็จพระ (sǒm-dèt-prá).
References
- ↑ 1.0 1.1 ราชบัณฑิตยสภา (2020) พจนานุกรมโบราณศัพท์ ฉบับราชบัณฑิตยสภา (in Thai), กรุงเทพฯ: สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, →ISBN, page 308:
สํมเดจ <สมเด็จ> (ข.โบราณ สํตจ, สํเตจ = คำนำหน้าพระนามพระมหากษัตริย์ เทพเจ้า และพระภิกษุสงฆ์ แผลงมาจาก สฺตจ, สฺตาจ ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก ตาจ่ = สูงส่ง; ข. สมฺเฎจ = ท่านผู้มีเดชะมาก ผู้มีบุญมีอำนาจมาก ใช้นำหน้าพระนามพระมหากษัตริย์ พระภิกษุ หรือนำหน้าชื่อขุนนางชั้นสูง) น. สมเด็จ, คำแสดงตำแหน่งยศชั้นสูง นำหน้าคำบอกยศ ศักดิ์ ตำแหน่ง หรือฐานะ สำหรับพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ ขุนนาง หรือพระภิกษุ
- ^ ราชบัณฑิตยสถาน (2011) “พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔”, in orst.go.th (in Thai): “สมเด็จ น. ยศหรือบรรดาศักดิ์อย่างสูงของเจ้านาย ขุนนาง และพระสงฆ์ ใช้นำหน้าชื่อฐานันดรศักดิ์โดยกำเนิดหรือได้รับแต่งตั้ง เช่น สมเด็จพระราชินี สมเด็จเจ้าฟ้า สมเด็จเจ้าพระยา สมเด็จพระราชาคณะ.”